‘‘นิพฺพานาย วทนฺตีนํ, กิํ โว วกฺขาม อุตฺตริ;
สนฺตสงฺขตโทสญฺหิ, ปปฺโปถ [สนฺตสงฺขตโทโส โย, ปชฺโชตํ (สฺยา. ปี. ก.)] อมตํ ปทํ’’ฯ
อิตฺถํ สุทํ ยโสธราปมุขานิ อฏฺฐารสภิกฺขุนีสหสฺสานิ ภควโต สมฺมุขา อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ
ยโสธราปมุขอฏฺฐารสภิกฺขุนีสหสฺสาปทานํ ทสมํฯ
กุณฺฑลเกสีวคฺโค ตติโยฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
กุณฺฑลา โคตมี เจว, ธมฺมทินฺนา จ สกุลา;
วรนนฺทา จ โสณา จ, กาปิลานี ยโสธราฯ
ทสสหสฺสภิกฺขุนี, อฏฺฐารสสหสฺสกา;
คาถาสตานิ จตฺตาริ, ฉ จ สตฺตติเมว จ [อฏฺฐสตฺตติเมว จ (สฺยา.)]ฯ
4. ขตฺติยาวคฺโค
1. ยสวตีปมุขอฏฺฐารสภิกฺขุนีสหสฺสอปทานํ
[1]
‘‘ภวา สพฺเพ ปริกฺขีณา, ภวา สนฺติ วิโมจิตา;
สพฺพาสวา จ โน นตฺถิ, อาโรเจม มหามุเนฯ
[2]
‘‘ปุริมํ กุสลํ กมฺมํ [ปริกมฺมญฺจ กุสลํ (สฺยา.)], ยํ กิญฺจิ สาธุปตฺถิตํ;
ปริโภคมยํ ทินฺนํ, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ
[3]
‘‘พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานํ, สาวกานญฺจ ปตฺถิตํ [พุทฺธานํ สาวกานญฺจ (สี. ก.)];
ปริโภคมยํ ทินฺนํ, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ
[4]
‘‘อุจฺจนีจมยํ กมฺมํ, ภิกฺขูนํ สาธุปตฺถิตํ;
อุจฺจากุลปริกมฺมํ, กตเมตํ มหามุเน [กตมฺเหหิ มหามุเน (สฺยา. ปี.)]ฯ
[5]
‘‘เตเนว สุกฺกมูเลน, โจทิตา กมฺมสมฺปทา;
มานุสิกมติกฺกนฺตา, ชายิํสุ ขตฺติเย กุเลฯ
[6]
‘‘อุปฺปตฺเต จ กเต กมฺเม, ชาติยา วาปิ เอกโต;
ปจฺฉิเม เอกโต ชาตา, ขตฺติยา กุลสมฺภวาฯ
[7]
‘‘รูปวตี โภควตี, ลาภสกฺการปูชิตา;
อนฺเตปุเร มหาวีร, เทวานํ วิย นนฺทเนฯ
[8]
‘‘นิพฺพินฺทิตฺวา อคารมฺหา, ปพฺพชิมฺหนคาริยํ;
กติปาหํ อุปาทาย, สพฺพา ปตฺตามฺห นิพฺพุติํฯ
[9]
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อุปเนนฺติ พหู อมฺเห, สทา สกฺกตปูชิตาฯ
[10]
‘‘กิเลสา ฌาปิตา อมฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหราม อนาสวาฯ
[11]
‘‘สฺวาคตํ วต โน อาสิ, มม พุทฺธสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
[12]